10 คำถามเรื่องบริจาคเลือด ต้องรู้
10 คำถามเรื่องบริจาคเลือด ต้องรู้
•
ไม่ใช่แค่ในคนเท่านั้นที่มีธนาคารเลือด หรือมีการบริจาคเลือด เพราะในสัตว์เลี้ยงก็มีหลายๆ กรณีที่สัตว์ป่วยจะต้องรับการถ่ายเลือดเช่นกัน เนื่องในโอกาสครบรอบ 84 ปี คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาๆ วันนี้คุณหมอจากหน่วยธนาคารเลือด โรงพยาบาลสัตว์เล็ก คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาฯ อาสามาตอบ 10 คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับการบริจาคเลือดในสัตว์เลี้ยงที่มักจะมีเจ้าของน้องหมาน้องแมวถามกันบ่อยๆ ให้หายสงสัยกัน พร้อมแล้วเริ่ม!!!
•
Q : สุนัขและแมวต้องการเลือดไปในกรณีไหนบ้าง เหมือนกับคนที่ป่วยไหมคะ?
📌โรคมะเร็ง ต้องการเลือดทดแทนเพื่อการผ่าตัด หรือให้เคมีบำบัด
📌 เลือดจาง เนื่องจากอาการป่วยเรื้อรัง เช่น ไตวาย, ตับวาย
📌 อุบัติเหตุ เช่น รถชน ตกตึก เลือดออกในปอด หรือช่องท้อง ตับ-ม้ามแตก ปอดฉีก
📌 เลือดจาง เกล็ดเลือดต่ำ เนื่องจากติดเชื้อพยาธิในเม็ดเลือด
📌 ได้รับสารพิษ เช่น ยาเบื่อหนู
📌โดนงูเขียวหางไหม้กัด มีสภาวะการแข็งตัวของเลือดที่ผิดปกติ
•
Q : สุนัขและแมวมี group เลือดเหมือนคนหรือไม่
🐶 สุนัขแบ่งกรุ๊ปเลือดตาม antigen บนผิวของเม็ดเลือดแดงออกเป็น DEA 1.1, 1.2, 3, 4, 5, 6, 7, 8
🐱 แมวแบ่งกรุ๊ปเลือดออกเป็น A, B, AB
•
Q : สุนัขสามารถบริจาคเลือดได้ทุกสายพันธุ์หรือไม่
🐶 สุนัขที่มีน้ำหนักมากกว่า 20 กิโลกรัม หน้าไม่สั้น ไม่มีปัญหาทางเดินหายใจ สามารถบริจาคเลือดได้ เช่น พันธุ์ไทย, Golden retriever, Labrador retriever, St. Bernard, Rottweiler, Doberman, Pitbull
•
Q : คุณสมบัติของสุนัขที่สามารถบริจาคเลือดได้มีอะไรบ้าง?
🐶 คุณสมบัติของสุนัขที่สามารถบริจาคเลือดได้ มีดังนี้
📌 อายุระหว่าง 1-8 ปี
📌 สุขภาพแข็งแรง มีน้ำหนักมากกว่า 20 กิโลกรัม
📌 ทำวัคซีนรวมประจำปีครบ มีการป้องกันเห็บหมัดพยาธิหัวใจเป็นประจำทุก 1 เดือน
📌 ไม่เคยได้รับเลือดมาก่อน
📌 ตัวเมียควรทำหมันแล้ว
📌 ไม่เป็นโรคติดต่อทางระบบเลือด
📌 ไม่เคยเป็นโรคแท้งติดต่อ
•
Q : แล้วแมวล่ะ คุณสมบัติแมวที่สามารถบริจาคเลือดได้ต้องมีอะไรบ้าง
🐱 คุณสมบัติของแมวที่สามารถบริจาคเลือดได้มีดังนี้
📌 อายุระหว่าง 1-8 ปี
📌 สุขภาพแข็งแรง มีน้ำหนักมากกว่า 4 กิโลกกรัม
📌 ทำวัคซีนรวมประจำปีครบ
📌 เป็นแมวเลี้ยงเฉพาะในบ้าน นิสัยไม่ดุร้าย
📌 มีการป้องกันและควบคุมหมัดอย่างต่อเนื่องทุกเดือน
📌 ตัวเมียควรทำหมันแล้ว
•
Q : ปริมาณเลือดที่สามารถบริจาคได้ในสุนัขและแมวเป็นจำนวนเท่าไหร่?
🐶 สุนัขสามารถบริจาคเลือดได้ปริมาณ 10-20 มล./กก. ปกติในสุนัขพันธุ์กลางจะไม่เกิน 350 มล. ต่อตัว และ 450 มล. ต่อตัวในสุนัขพันธุ์ใหญ่ เช่น Great dane, St. Bernard ส่วนแมวสามารถบริจาคเลือดได้ปริมาณ 10-12 มล./กก.
•
Q : ขั้นตอนในการบริจาคเลือดของสุนัขมีอย่างไรบ้าง
📌 ตรวจเลือดเพื่อเช็คสุขภาพสัตว์ สัตวแพทย์จะตรวจความเข้มข้นของเม็ดเลือดแดง เกล็ดเลือด รวมทั้งตรวจการทำงานของตับไต และตรวจพยาธิในเม็ดเลือด
📌 เมื่อผลเลือดผ่านแล้ว สุนัขสามารถเก็บเลือดได้จากทั้งที่ขาหน้า หรือที่คอ ขึ้นอยู่กับขนาดของสุนัขและขนาดของเส้นเลือด
📌 ระหว่างที่สุนัขบริจาคเลือด สัตวแพทย์จะทำการให้น้ำเกลือ เพื่อทดแทนปริมาณน้ำเลือดที่สูญเสียไป และป้องกันไม่ให้สุนัขมีสภาวะขาดน้ำ
📌 หลังจากบริจาคเลือดเรียบร้อยแล้ว สุนัขจะนอนพักเป็นเวลาประมาณ 10-15 นาที
📌 สุนัขจะได้รับอาหารบำรุงสุขภาพ และยาบำรุงเลือดกลับไปป้อนต่อเนื่องที่บ้าน
•
Q : ที่โรงพยาบาลสัตว์เล็ก คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาฯ มีผลิตภัณฑ์ของเลือดแบบไหนบ้าง?
📌 เม็ดเลือดแดงอัดแน่น (packed red blood cells)
📌 พลาสม่าแช่แข็ง (fresh frozen plasma)
📌 เกล็ดเลือด (platelet concentration)
•
Q : การวางยาเพื่อบริจาคเลือดมีความเสี่ยงมากน้อยแค่ไหน?
🐶 สำหรับสุนัขสัตวแพทย์มักจะวางยาเพื่อทำการสงบประสาทในสุนัขที่มีอาการตื่นเต้น หรือค่อนข้างดุจนไม่สามารถที่จะควบคุมได้ โดยยาที่ใช้ค่อนข้างมีความปลอดภัย และมียาแก้ฤทธิ์ของยาสงบประสาทเสมอ ฉะนั้นเพื่อสุนัขบริจาคเลือดเสร็จจะกลับมารับรู้เป็นปกติเกือบ 100%
🐱 ส่วนในแมว สัตวแพทย์มีความจำเป็นที่ต้องวางยาสงบประสาทในทุกกรณี แต่อยู่ในระดับที่ปลอดภัยต่อตัวแมว
•
Q : สัตว์ที่มาบริจาคเลือดจะได้รับประโยชน์อะไรบ้าง?
👍 ข้อดีของการมาบริจาคเลือดคือ
📌 สัตว์เลี้ยงจะได้รับการตรวจสุขภาพจากสัตวแพทย์อย่างละเอียด และไม่เสียค่าใช้จ่าย
📌 ร่างกายมีการหมุนเวียน เปลี่ยนถ่ายเลือดใหม่เป็นประจำทุก 3 เดือน
📌 ได้ทำบุญเพื่อต่อลมหายใจให้แก่เพื่อนสัตว์ที่กำลังเจ็บป่วย